อาชีพค้าของเก่า ของสะสมโบราณมีค่ามีทุกยุค ทุกสมัย

อาชีพค้าของเก่า ของโบราณมีค่ามีทุกยุค ทุกสมัย แต่ในช่วง5-6 ปีที่ผ่านมาดูเหมือนว่าจะยิ่งบูมเพิ่มขึ้น และขยายตัวมาเป็นกิจกรรมของนักสะสมที่เป็นชนชั้นกลางมากขึ้น สิ่งที่เห็นชัดคือ การขยายตัวของตลาดนัดของเก่า ได้แก่ ตลาดนัดรถไฟสวนจตุจักร ขายวันศุกร์ – เสาร์- อาทิตย์ เหมาะสำหรับคนที่พอจะมีกำลังซื้ออยู่บ้าง เพราะเป็นแหล่งรวมสินค้าหายาก ราคาค่อนข้างสูง ถ้าคนที่งบน้อยลงมา หรือชอบของที่ราคาลดหลั่นลงมาหน่อย ก็ต้องไปที่สนามหลวง 2 วันเสาร์-อาทิตย์ หรือตลาดไท ปทุมธานี วันพฤหัสบดี ทั้งสองตลาด เป็นตลาดที่พ่อค้า แม่ค้าของเก่าโบราณจะไปหาซื้อของมาขายกัน
สำหรับคนที่อยู่ต่างจังหวัด ปัจจุบันมีตลาดค้าของเก่าอยู่หลายแห่ง อาทิ เช่น จังหวัดราชบุรี (วันพุธ) และสุพรรณบุรี (วันศุกร์) และชลบุรี หรือชื่อที่วงการรู้จักกันดีว่า ตลาดนัดนินจา (ขายคืนวันศุกร์ เช้าวันเสาร์)

ความน่าสนใจของธุรกิจนี้ คงอยู่ที่ “ซื้อถูกขายแพง” คือต้นทุนซื้อสินค้ามาถูก เพราะเจ้าของไม่เห็นประโยชน์ ใช้มานาน จึงยอมขายถูก คนซื้อก็อยากได้ของ แต่ไม่รู้ว่าจะไปหาซื้อได้ที่ไหน เลยต้องยอมทุ่ม แม้ว่าราคาจะสูง สรุปว่าพ่อค้าคนกลางเลยรวย

เห็นวงจรอย่างนี้ อย่าคิดว่าพ่อค้าจะโชคดีเหมือนกันไปหมด เพราะโอกาสที่จะมีลูกค้ามายอมทุ่มงบซื้อของสะสมแบบนี้มีไม่มากนัก เงินที่ซื้อต้องเป็นเงินเหลือใช้จริงๆ หรือไม่ของก็ถูกใจจริงๆ การเติบโตของธุรกิจนี้จึงไม่ได้หวือหวามากนัก เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป

คนที่เริ่มต้นธุรกิจนี้คือส่วนใหญ่เกิดจากความชอบ แล้วลงมือศึกษา ต่อมาก็เก็บสะสม หรือไม่ก็มองหาของที่บ้านว่ามีอะไรที่เก่าเข้าคอนเซ็ปต์ของเก่าโบราณ ก็ค่อยๆเริ่มเอามาขาย จนเกิดเป็นอาชีพ

เจ้าของกิจการคนหนึ่งเล่าว่า ครั้งแรกเริ่มจากให้ลูกค้าสอนเราก่อน เพราะส่วนใหญ่ลูกค้า ค่อนข้างมีความรู้ และศึกษามาก่อนจะมาซื้อสินค้า หรือไม่เราก็ต้องศึกษาจากรุ่นพี่ในวงการว่าเขาหาสินค้าอะไรมาขายกัน เราก็ไปหามาบ้าง และอีกวิธีหนึ่ง ก็อาศัยประสบการณ์ว่าตอนเด็กเคยเห็นอะไรก็หาของเหล่านั้นมาขาย ซึ่งลูกค้ามือใหม่หลายคนก็เริ่มจากเก็บสะสมของที่เคยเห็นในอดีต เช่นกัน

ร้านของเก่าโบราณส่วนที่มาของสินค้า ซึ่งเป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้ ขอบอกว่า คนที่เข้าสู่แวดวงนี้แล้ว ก็จะรู้ว่า ต้องไปหาสินค้ากันที่ไหน ปัจจุบันสินค้าเริ่มหายากมากขึ้น และราคาแพงขึ้น พ่อค้าที่ทำมาก่อน ถือว่าเป็นเซียน ก็จะรู้ว่าแหล่งสินค้ามีอยู่ที่ไหนบ้าง และรู้ว่าควรจะซื้อราคาเท่าไหร่ แบบไหน ที่ขายได้ ที่สำคัญพ่อค้าเก่าจะรู้ว่าสินค้าควรจะขายราคาเท่าไหร่ เรียกว่า งานนี้ไม่ใช่หมู คนที่เคยทำมาก่อนจะได้เปรียบค่อนข้างมาก เพราะ ลูกค้าซื้อของเก่า แบบกระเป๋าหนัก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกค้าขาประจำกัน และที่สำคัญพวกเซียนที่ทำมานานสามารถอธิบายลูกค้า ถึงที่มาที่ไปของสินค้าได้ จุดนี้ต้องทำให้ลูกค้าขาประจำติดใจเช่นกัน เรียกว่า หน้าใหม่ ก็ต้องค่อยเรียนรู้กันไป และหาวิชาจากรุ่นพี่ สำหรับคนที่จะเข้าสู่ธุรกิจนี้น่าที่จะมีเงินทุนเพื่อใช้หมุนเวียนอยู่บ้าง เพราะของบางอย่างที่ซื้อมา ไม่แน่ว่าจะขายได้เมื่อไหร่ การตัดใจขายถูกไปบางครั้งก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป เพราะขายไปแล้วไม่รู้ว่าจะไปหาสินค้าแบบนั้นได้จากที่ไหนอีก

ท้ายสุดแนะนำว่า ถ้าจะทำธุรกิจนี้ ควรจะเริ่มจากใจรัก และคิดว่าซื้อมาขายไม่ได้ ก็เก็บสะสมไว้ จะได้ไม่เครียดว่า สินค้าออกช้า เพราะต้องยอมรับว่า เป็นอาชีพที่มีพ่อค้าหน้าใหม่เกิดขึ้นมามาก และก็ต้องเลิกกิจการไปก็มากพอๆ กัน

This entry was posted in สินค้า ของสะสม and tagged . Bookmark the permalink.

Comments are closed.